นึกถึงโคราช คุณจะนึกถึงอาหารอะไรค่ะ? เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยก็คงจะตอบว่า ผัดหมี่โคราช ใช่ไหมค่ะ เเต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าอีกหนึ่งอาหารโคราชที่เป็นตำนานเเละปัจจุบันนี้หากินได้อย่างอย่าง  "ข้าวแผะ"  หรือ "เช่าเเพะ" ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารท้องถิ่นโคราช  ที่น่าลองเหมือนกันค่ะข้าวแผะมีลักษณะคล้ายกับข้าวต้มเเต่จะต่างกันก็ตรงที่ข้าวเเผะนั้นรวมเอาผักนานาชนิด เนื้อสัตว์ เเละพริกแกงใส่ลงไป เเถมเเต่ละพื้นที่ก็ยังมีสูตรเฉพาะไม่เหมือนกันอีกด้วย  

วันนี้  Food-Trick ก็เลยถือโอกาสชวนทุกคนไปทำอาหารเมนูนี้พร้อมกันค่ะ นอกจากจะเป็นอาหารที่น่าลอง รสชาติอร่อยเเล้ว  ข้าวแผะหนึ่งถ้วยคุณก็ยังได้รับสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ เรียกว่าดีเเละมีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ ส่วนวิธีการทำนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คุณคิด เอาเป็นว่าตามเราเข้าครัวไปดูสูตรอาหารโบราณนี้พร้อมกันเลยจ้า

วัตถุดิบ                  

1.ข้าวสาร  200  กรัม                        

2.เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้น  200  กรัม                 

3.บวบเหลี่ยม  100  กรัม                         

4.ข้าวโพดอ่อน  8 – 9  ฝัก                        

5.ใบแมงลัก  50  กรัม                               

6.เห็ดฟาง  100  กรัม                

7.ตำลึง  100  กรัม                  

8.กะทิ  300  กรัม                   

9.ฟักทอง  200  กรัม                   

10.พริกแกงเผ็ด                                

11.เกลือป่น                 

12.น้ำปลา                       

13.น้ำเปล่า

วิธีทำข้าวแผะ                                          

1.เตรียมวัตถุดิบต่างๆรอไว้ ได้แก่ หั่นฟักทองเป็นชิ้นพอดีคำ หั่นข้าวโพดอ่อน เห็ดฟาง บวบ เเละหั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นเตรียมไว้

2.นั้นนำหม้อขึ้นตั้งไฟใส่น้ำลงไปนิดหน่อยตามด้วยกะทิลงไป  แล้วนำข้าวที่ซาวสะอาดแล้วลงไปต้มในกะทิ  แล้วตามด้วยผักที่สุกอย่าง เช่น ข้าวโพดอ่อน ฟักทอง บวบเหลี่ยมลงไป

 

  

         

3.เมื่อข้าวเริ่มพองตัวให้ใส่พริกแกงเผ็ดลงไป คนให้พริกแกงละลายดี ตามด้วยเนื้อหมู  จากนั้นใส่ผักที่สุกง่ายลงไปได้เลย ได้แก่ เห็ดฟาง ตำลึง (ยกเว้นใบแมงลัก)

           

4.ปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำปลา แล้วต้มไปเรื่อยๆ จนข้าวสุกดี (ในขั้นตอนนี้ถ้าน้ำแห้ง สามารถเติมน้ำลงไปอีกได้)

 

        

5.เมื่อข้าวและส่วนผสมทุกอย่างสุกได้ที่ปิดไฟ ใส่ใบแมงลักลงไป เพื่อเพิ่มความหอมแล้วคนให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วยกลงจากเตา

                                              

6.ตักใส่ภาชนะเสิร์ฟ พร้อมรับประทานได้เลย

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.youtube.com/watch?v=LzID48qH_6Q